เมื่อยามสายฝนโปรยปราย
สายฝนพาเขาให้มาพบฉันและสายฝนก็พรากเขาไปจากฉันตลอดกาล
ผู้เข้าชมรวม
170
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เมื่อยามสายฝนโปรยปราย
“เฮ้อ ฝนตกจริงๆหรอเนี่ย” ฉันเอ่ยขึ้นขณะเงยหน้ามองสายฝนที่กำลังเทลงมาอย่าหนัก ถ้าถามว่าฉันเป็นใครล่ะก็ ฉันก็แค่มนุษย์เงินเดือนคนนึงที่อยู่ทำงานจนเย็นไม่ยอมกลับบ้านไปพร้อมเพื่อนร่วมงานคนอื่นที่กลับไปตั้งแต่บ่ายแถมยังไม่เชื่อพยากรณ์อากาศที่บอกว่าวันนี้ฝนจะตกหนักทำให้ต้องติดแหง็กรอฝนหยุดตกอย่างช่วยไม่ได้
“ว้า นึกว่าจะทันซะอีกแย่จัง” เสียงทุ้มนุ่งเสียงหนึ่งดังแทรกเข้ามายังโสตประสาทของฉันที่กำลังกล่าวโทษลมฟ้าอากาศและสิ่งอื่นๆอยู่ เมื่อหันไปมองตามทิศทางของเสียงนั้นก็พบชายหนุ่มท่าทางขี้เล่นคนหนึ่งยืนอยู่ ไม่รู้ว่าเพราะฉันจ้องเขามากไปหรือเพราะบังเอิญกันแน่เขาจึงหันมาทางฉันพร้อมๆกับดวงตาของเราสองคนประสานกันพอดี
“สวัสดีครับ คุณเองก็ติดฝนเหมือนกันสินะ” เขาเอ่ยพร้อมกับยิ้มกว้างออกมา เฮ้อออ เอาเถอะอย่างน้อยๆตอนที่ติดฝนอยู่นี่ฉันก็ยังมีเพื่อนคุยรอจนกว่าฝนจะหยุดตกล่ะนะ
หลังจากวันนั้นเราสองคนก็พบกันบ่อยขึ้น ได้คุยกันบ่อยขึ้น และสนิทกันมากขึ้น ในวันหนึ่งที่เราสองคนแอบอู้งานออกมานั่งจิบกาแฟด้วยกันเขาก็ขอฉันเป็นแฟน เป็นการขอที่เรียบง่ายมาก ไม่มีการคุกเข่า ไม่มีการจับมือ เขาทำเพียงแค่ยกแก้วกาแฟขึ้นมาจิบ วางแก้วลง จ้องมาที่ฉันก่อนจะยิ้มกว้างแล้วพูดด้วยเสียงที่ร่าเริงว่า “ผมชอบคุณล่ะ เป็นแฟนกันนะ” และสิ่งที่ฉันทำหลังจากที่เขาพูดคือ ยกแก้วกาแฟมาจิบ วางแก้วลง แล้วยิ้มบางๆตอบไปว่า “อืม ได้สิเป็นแฟนกันก็ได้” เป็นไงล่ะเรียบง่ายดีใช่มั้ย แต่ฉันว่านะถึงมันจะเรียบง่ายแต่มันก็โอเคนะ
ตั้งแต่วันที่เราเจอกันวันแรกจนมาถึงวันนี้ก็ครบหนึ่งปีแล้วล่ะนะ วันนี้เป็นวันครบรอบพอดีเลยและวันนี้ก็เหมือนวันนั้นที่ฉันนั่งทำงานจนเย็นและเมื่อออกมาก็พบว่าฝนกำลังตกหนักอยู่ เพียงแต่ว่าคราวนี้ฉันไม่ได้เจอเขาโดยบังเอิญและคราวนี้เขาก็พกร่มมาด้วยทำให้เราไม่ต้องติดแหง็กรอฝนหยุดตกเหมือนคราวก่อน ในขณะที่เรากำลังเดินกลับบ้านอยู่นั้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฝนที่ตกหนักมากจนมองไม่เห็นสภาพแวดล้อมรอบๆตัวเรา หรือเป็นเพราะเราคุยกันเพลินจนไม่ได้สนใจสิ่งรอข้าง หรือเพราะโชคชะตากันแน่ จึงทำให้ตอนที่เรากำลังข้ามถนนจึงไม่รู้ว่ามีรถคันหนึ่งกำลังแล่นมาด้วยความเร็วสูง กว่าเราจะรู้ตัวก็เป็นตอนที่เรายืนอยู่กลางถนนเสียแล้ว ในขณะที่ฉันกำลังตื่นตะลึงอยู่นั้นเขาก็ได้ผลักฉันจนล้มไปที่ฟุตบาธและเมื่อฉันหันกลับไปภาพที่ฉันเห็นคือร่างของเขาที่กำลังถูกรถคันนั้นชนอย่างจังก่อนที่ร่างของเขาจะกระเด็นไปชนเสาไฟฟ้าที่อยู่อีกฝั่ง ในขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึงอยู่นั้นรถคันนั้นก็ขับหนีไป ฉันที่พอได้สติก็รีบวิ่งไปหาเขาที่กำลังนอนจมกองเลือดอยู่อีกฝั่งทันที ร่างของเขานั้นแดงฉานไปด้วยเลือดที่กำลังไหลนองฉันค่อยๆทรุดตัวลงนั่งข้างๆเขาก่อนจะพยุงร่างของเขาขึ้นมากอดไว้ จู่ๆร่างของเขาก็ขยับเล็กน้อยฉันจึงเงยหน้าขึ้นมาและพบกับสายตาของเขาที่กำลังจ้องมองมา มือของเขาค่อยๆยื่นขึ้นมาสัมผัสกับใบหน้าของฉันมือของฉันเอื้อมไปกุมมือเขาเอาไว้ เขาจ้องมองฉันก่อนจะพยายามฝืนยิ้มร่าเริงออกมาพร้อมกับเอ่อออกมาอย่างแผ่วเบาว่า “ผมขอโทษนะที่ผลักคุณ เจ็บมากมั้ย ผมรักคุณนะผมขอโทษที่ทำให้คุณเจ็บ ผมคงต้องไปแล้วผมรักคุณนะลาก่อน” เมื่อสิ้นเสียงของเขาเปลือกตาของเขาก็ค่อยๆเลื่อนปิดลง มือของเขาที่ฉันกุมไว้ก็ค่อยๆอ่อนแรงก่อนที่จะหลุดจากมือของฉันพร้อมๆกับลมหายใจเฮือกสุดท้ายที่หลุดลอยไปอย่างไม่อาจยื้อไว้ได้อีก ฉันกรีดร้องออกมาก่อนจะโถมตัวไปกอดร่างของเขาเอาไว้แน่น ฝนที่ตกหนักอยู่แล้วกลับยิ่งเทลงมาหนักกว่าเก่าราวกับซ้ำเติม ฉันได้ยินเสียงไซเรนของรถพยาบาลมาจากที่ไกลๆแล้วหลังจากนั้นฉันก็ไม่รับรู้อะไรได้อีกเลย
ผ่านมาแล้วหนึ่งสัปดาห์นับจากวันนั้น ในตอนแรกที่ฉันตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในตัวเมือง เพื่อนร่วมงานบอกกับฉันว่าฉันสลบไปหนึ่งวันเต็มหมอบอกว่าน่าจะเป็นเพราะสภาพจิตใจย่ำแย่จริงสลบไปนานขนาดนั้น ร่างกายของฉันไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรนอกจากแผลถลอกส่วนเขาเมื่อรถพยาบาลไปถึงก็พบว่าเขาได้จากเสียไปแล้ว งานศพของเขาจัดขึ้นเพียงสามวันในตอนนี้ฉันกำลังยืนอยู่หน้าหลุมศพของเขา ในขณะที่ฉันกำลังจ้องมองรูปของเขาอยู่นั้นจู่ๆสายฝนก็เทลงมาอย่างหนัก ฉันเหม่อมองสายฝนที่ตกลงมาอย่างเศร้าสร้อย วันแรกที่เราพบกันฝนก็ตกอย่างนี้และวันสุดท้ายที่เราพบกันฝนก็ตกแบบนี้เช่นกัน สายฝนพาเขามาพบกับฉันและหนึ่งปีต่อมาสายฝนก็พรากเขาไปจากฉันตลอดกาล...
ผลงานอื่นๆ ของ Blue Doll ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Blue Doll
ความคิดเห็น